อาเซียน +3 +6
อาเซียน +3 อาเซียน +6 คืออะไร
อาเซียน +3 คือ ความร่วมมืออย่างเป็นทางการในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกลุ่มประเทสอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา 3 ประเทศใหญ่ คือ จีน เกาหลีใต้ และญีปุ่น ส่วนอาเซียน +6 มี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย เพิ่มเข้ามาอีก 3 ประเทส ซึ้งทำให้กลุ่มประเทศอาเซียนมีตลาดใหญ่ขึ้นตามลำดับ
กรอบปฎิบัติของอาเซียน เรียกว่า กฏบัตรอาเซียน (Asean Charter) เริ่มใช้เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 เป็นเอกสารที่เทียบได้กับธรรมนูญการปกครอง มีรายละเอียดระบุโครงสร้างองค์กรและหลักปฎิบัติร่วมกัน
เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไป ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
รวมทั้งเรื่องการสร้างประชาคมอาเซียนด้วย
ประเทศอาเซียนน่ารู้
·
อาเซียน 6
·
อาเซียน 3 6
·
asean 6
·
asean 3
·
ลําดับ
ประเทศอาเซียน
·
ประเทศอาเซียน 3
·
อาเซียน 3 คือ
·
ประเทศอาเซียน 6
·
อาเซียน 6 คือ
มารู้จัก อาเซียน+3 ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก aseanpeople.weebly.com
เราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือที่เรียกว่า "อาเซียน"
(Asean) ประกอบไปด้วย 10 ประเทศ
ซึ่งตั้งอยู่ในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นก็คือ ประเทศบรูไน พม่า กัมพูชา
อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
แต่เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า "อาเซียน+3" หรือ "อาเซียนบวกสาม"
กันมาบ้างเวลาที่มีการจัดประชุมระดับนานาชาติ แล้วเคยสงสัยไหมว่า "อาเซียน+3"
คืออะไร ถ้าใครยังไม่ทราบ ตามมาหาคำตอบกันได้เลย
ความเป็นมาของอาเซียน+3
สำหรับ "อาเซียน+3"
(Asean+3 Summit) หรือ อาเซียนพลัสทรี เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งสิบประเทศ
รวมกับอีก 3 ประเทศนอกอาเซียน ได้แก่ ประเทศจีน
ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้
ซึ่งทั้งสามประเทศนี้อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และนับเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในระดับโลกเลยทีเดียว
ทั้งนี้ "อาเซียน+3" ยกระดับความร่วมมือขึ้นในปี
พ.ศ. 2540 หลังจากหลายประเทศในเอเชียเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ
หรือที่เรียกว่า "ต้มยำกุ้งดีซีส" ในช่วงกลางปี ครั้งนั้น
ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ
ได้เข้าร่วมพบปะหารือกับผู้นำของประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
และหาแนวทางรับมือกับภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในเอเชียตะวันออก
นับแต่นั้นมา ในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จัดขึ้นทุกครั้ง
ผู้นำของทั้ง 10 ชาติสมาชิกอาเซียนก็จะเข้าร่วมประชุมกับผู้นำของประเทศจีน
ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ด้วย โดยใช้ชื่อว่า "การประชุมสุดยอดอาเซียน+3" ซึ่งในการประชุมครั้งที่ 2 ได้มีการหารือกันถึง 2
ประเด็นหลัก คือ
1. ความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาค
2. ความร่วมมือสู่ศตวรรษที่
21 ในการรักษาส่งเสริมสันติภาพ และความมั่นคง
ความมีเสถียรภาพและการพัฒนา
กรอบความร่วมมืออาเซียน+3 เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นภายหลังจากการออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือเอเชียตะวันออก
(Joint Statement on East Asia Cooperation) และการจัดตั้ง
East Asian Vision Group (EAVG) ในปี พ.ศ. 2542 ซึ่ง EVAG นี้ประกอบไปด้วยนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิจากประเทศอาเซียน+3
ซึ่งจะร่วมกันระดมความคิดและแสวงหาวิธีการขยายความร่วมมือในด้านต่าง
ๆ ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
ต่อมา EVAG
ได้เสนอแนวความคิดในการจัดตั้งประชาคมเอเชียตะวันออก (East
Asian community-EAC) รวมถึงการจัดการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก
(East Asia Summit-EAS) ด้วย และในการประชุมสุดยอดอาเซียน+3
ครั้งที่ 9 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อปี
พ.ศ. 2548 ผู้นำก็ได้ลงนามในปฏิญญากัวลาลัมเปอร์กำหนดให้การจัดตั้งประชาคมเอเชียตะวันออกเป็นเป้าหมายระยะยาว
และให้กรอบอาเซียน+3 เป็นกลไกหลักในการนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าวด้วย
วัตถุประสงค์ของกรอบความร่วมมืออาเซียน+3
การรวมกลุ่มอาเซียน+3
เป็นการนำไปสู่การจัดตั้งประชาคมเอเชียตะวันออก
โดยชาติสมาชิกจะร่วมมือและสนับสนุนกันในด้านต่าง ๆ
รวมทั้งการสร้างเขตความร่วมมือทางความมั่นคง และการเมืองที่ไม่ใช้ความรุนแรง ทั้งนี้
ความร่วมมือต่าง ๆ จะอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือสำคัญ 6 ด้านที่เร่งผลักดัน
คือ
1. การร่วมกันกำหนดกฎระเบียบในภูมิภาค
2. การตั้งเขตการค้าเสรี
3. ข้อตกลงความร่วมมือทางการเงินและการคลัง
4. เขตความร่วมมือและมิตรภาพเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมอาวุธ
5. การคมนาคมและเครือข่ายการสื่อสาร
6. ด้านสิทธิมนุษยชนและพันธะกรณีต่าง
ๆ
สำหรับกรอบความร่วมมือต่าง
ๆ
เหล่านี้จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้เกิดประชาคมเอเชียตะวันออกได้อย่างแท้จริง
แต่ถึงกระนั้น
แต่ละประเทศก็ต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอย่างเร่งด่วนเสียก่อน
เช่น ปัญหาดินแดนทับซ้อน ที่ยังเป็นอุปสรรคในการสร้างประชาคมเอเชียตะวันออก
ความสำคัญของอาเซียน+3 ต่อประเทศไทย
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า
ประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ถือเป็นประเทศผู้นำด้านเศรษฐกิจในทวีปเอเชีย
และมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ดังนั้น การที่อาเซียนสามารถดึงให้ทั้ง 3 ประเทศ เข้ามาร่วมในกรอบความร่วมมือของอาเซียนได้
จึงทำให้เกิดความร่วมมือในด้านต่าง ๆ มากขึ้นอย่างแน่นอน
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศสมาชิก รวมทั้งประเทศไทยที่มีการประเมินว่า
ประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์จากความร่วมมือในกรอบของเขตการค้าเสรีอาเซียนบวก+3
(FTA Asian +3) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,943 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
เชื่อได้ว่า ในอนาคต อาเซียน+3 จะเป็นการร่วมตัวที่มีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับโลก
เพราะสัดส่วนของประชากรทั้ง 13 ชาติ
คิดเป็นหนึ่งในสามของประชากรโลก
และมียอดเงินสำรองต่างประเทศรวมกันมากกว่ากึ่งหนึ่งของเงินสำรองโลก นอกจากนี้
หากรวมผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เข้าด้วยกัน
จะทำให้มีมูลค่าถึง 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
หรือประมาณร้อยละ 16 ของจีดีพีโลกเลยทีเดียว
ไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมตอนนี้โลกกำลังจับตามองการรวมกลุ่มของชาติต่าง ๆ
ในเอเชียมากเป็นพิเศษ
เกาะติด ข่าวอาเซียน 10
ประเทศ ข้อมูลอาเซียน เลาะรั้วอาเซียน คลิกเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
aseansec.org
aseanpeople.weebly.com
asean.jsforeign.com
prd.go.th
|