กฎบัตรอาเซียน (Asean Charter) ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่13 เมื่อปี 2550 ที่ประเทศสิงคโปร์
กฎบัตรสมาคมแห่งประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อารัมภบท
เราบรรดาประชาชนของรัฐสมาชิกของสมาคมแห่งประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(อาเซียน) โดยมีประมุขรัฐหรือหัวหน้ารัฐบาลของบรูไนดารุสซาลาม
ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
มาเลเซีย สหภาพพม่า สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ราชอาณาจักรไทย
และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
เป็นผู้แทนรับทราบด้วยความพึงพอใจในความสำเร็จอย่างสูงและการขยายตัวของอาเซียนนับตั้งแต่มีการก่อตั้งขึ้นที่กรุงเทพมหานครด้วยการประกาศใช้ปฏิญญาอาเซียน
โดยระลึกถึงการตัดสินใจจัดทำกฎบัตรอาเซียน ตามแผนปฏิบัติการเวียงจันทน์
ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการจัดทำกฎบัตรอาเซียน
และปฏิญญาเซบูว่าด้วยแผนแม่บทของกฎบัตรอาเซียน
ตระหนักถึงการมีผลประโยชน์ร่วมกันและการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างประชาชนและรัฐสมาชิกอาเซียนซึ่งมีความผูกพันกันทางภูมิศาสตร์
ตลอดจนมีวัตถุประสงค์และชะตาร่วมกัน ได้รับแรงบันดาลใจและรวมกันภายใต้วิสัยทัศน์เดียวกัน
อัตลักษณ์เดียวกัน และประชาคมที่มีความเอื้ออาทรเดียวกัน
รวมกันด้วยความปรารถนาและเจตจำนงร่วมกันที่จะดำรงอยู่ในภูมิภาคแห่งสันติภาพ
ความมั่นคงและเสถียรภาพที่ถาวร มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน มีความมั่งคั่งและความก้าวหน้าทางสังคมร่วมกัน
และที่จะส่งเสริมผลประโยชน์ อุดมการณ์ และแรงดลใจที่สำคัญของอาเซียน
เคารพความสำคัญพื้นฐานของมิตรภาพและความร่วมมือ และหลักการแห่งอธิปไตย
ความเสมอภาค บูรณภาพแห่งดินแดน การไม่แทรกแซงในกิจการภายใน
ฉันทามติและเอกภาพในความหลากหลาย ยึดมั่นในหลักการแห่งประชาธิปไตย หลักนิติธรรม
และธรรมาภิบาล การเคารพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
ตกลงใจที่จะประกันการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของประชาชนรุ่นปัจจุบันและอนาคต
และตั้งมั่นให้ ความอยู่ดีกินดี การดำรงชีวิตและสวัสดิการของประชาชนเป็นแกนของกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียน
เชื่อมั่นในความจำเป็นที่จะกระชับสายสัมพันธ์ที่มีอยู่ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในระดับภูมิภาค
เพื่อบรรลุประชาคมอาเซียนที่มีความเหนียวแน่นทางการเมือง การรวมตัวทางเศรษฐกิจ
และมีความรับผิดชอบทางสังคม เพื่อที่จะตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพต่อความท้าทายและโอกาสในปัจจุบันและอนาคต
ผูกพันที่จะเร่งสร้างประชาคมโดยผ่านความร่วมมือ
และการรวมตัวในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการจัดตั้งประชาคมอาเซียน
ซึ่งประกอบด้วยประชาคมความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ตามที่ระบุไว้ในปฏิญญาบาหลีว่าด้วยข้อตกลงอาเซียนฉบับที่ 2 ในการนี้
จึงตกลงใจที่จะจัดทำกรอบทางกฎหมายและทางสถาบันของอาเซียนโดยกฎบัตรนี้
และเพื่อการนี้ ประมุขรัฐหรือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียน
ซึ่งมาประชุมกันที่สิงคโปร์ ในวาระประวัติศาสตร์ครบรอบ 40
ปีของการก่อตั้งอาเซียน ได้เห็นชอบกับกฎบัตรอาเซียนนี้ หมวดที่
1 วัตถุประสงค์และหลักการ ข้อ
1: วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ของอาเซียนคือ เพื่อธำรงรักษาและเพิ่มพูนสันติภาพ
ความมั่นคง และเสถียรภาพ กับทั้งเสริมสร้างคุณค่าทางสันติภาพในภูมิภาคให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับตัวสู่สภาวะปกติของภูมิภาคโดยการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมือง
ความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคมวัฒนธรรมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อธำรงรักษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์และปราศจากอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงอื่นๆ
ทุกชนิด เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนและรัฐสมาชิกของอาเซียนอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้โดยสันติในสภาวะที่เป็นธรรม
มีประชาธิปไตยและมีความสมานสามัคคี เพื่อสร้างตลาดและฐานการผลิตเดียวที่มีเสถียรภาพ
ความมั่งคั่ง มีความสามารถในการแข่งขันสูง และมีการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจซึ่งมีการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยมีการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีของสินค้า บริการ และการลงทุน
การเคลื่อนย้ายที่ได้รับความสะดวกของนักธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพ
ผู้มีความสามารถพิเศษและแรงงาน และการเคลื่อนย้ายอย่างเสรียิ่งขึ้นของเงินทุน เพื่อบรรเทาความยากจนและลดช่องว่างการพัฒนาในอาเซียนผ่านความช่วยเหลือซึ่งกันและกันและความร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตย
เพิ่มพูนธรรมาภิบาล และหลักนิติธรรม ตลอดจนส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานโดยคำนึงถึงสิทธิและหน้าที่ของรัฐสมาชิกของอาเซียน เพื่อเผชิญหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
ตามหลักความมั่นคงที่ครอบคลุมในทุกมิติ ต่อสิ่งท้าทายทุกรูปแบบ
อาชญากรรมข้ามชาติ และสิ่งท้าทายข้ามพรมแดนอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เพื่อทำให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองสภาพแวดล้อมในภูมิภาค ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติในภูมิภาค
การอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาค และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในภูมิภาค เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยผ่านความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในเรื่องการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างพลังประชาชนและเสริมสร้างความเข้มแข็งแห่งประชาคมอาเซียน เพื่อเพิ่มพูนความอยู่ดีกินดีและการดำรงชีวิตของประชาชนอาเซียนด้วยการให้ประชาชนมีโอกาสที่ทัดเทียมกันในการเข้าถึงการพัฒนามนุษย์
สวัสดิการสังคม และความยุติธรรม เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
มั่นคง และปราศจากยาเสพติด สำหรับประชาชนของอาเซียน เพื่อส่งเสริมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ซึ่งทุกภาคส่วนของสังคมได้รับการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมและได้รับผลประโยชน์จากกระบวนการรวมตัวและการสร้างประชาคมของอาเซียน เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ของอาเซียนด้วยการส่งเสริมความสำนึกถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมรดกของภูมิภาคยิ่งขึ้น
และ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นศูนย์รวมและบทบาทเชิงรุกของอาเซียนในฐานะพลังขับเคลื่อนขั้นแรกของความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนนอกภูมิภาค
ในภาพแบบของภูมิภาคที่ เปิดกว้าง โปร่งใส และไม่ปิดกั้น ข้อ
2: หลักการ ในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามข้อ
1 อาเซียนและรัฐสมาชิกอาเซียนยืนยันและยึดมั่นในหลักการพื้นฐานที่ปรากฏในปฏิญญา
ความตกลง อนุสัญญา ข้อตกลง สนธิสัญญา และตราสารอื่นๆ ของอาเซียน อาเซียนและรัฐสมาชิกอาเซียนจะปฏิบัติตามหลักการดังต่อไปนี้
(ก)
การเคารพเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค บูรณภาพแห่งดินแดน
และอัตลักษณ์แห่งชาติของรัฐสมาชิกอาเซียนทั้งปวง (ข)
ความผูกพันและความรับผิดชอบร่วมกันในการเพิ่มพูนสันติภาพ
ความมั่นคงและความมั่งคั่งของภูมิภาค (ค)
การไม่ใช้การรุกราน
และการข่มขู่ว่าจะใช้หรือการใช้กำลังหรือการกระทำอื่นใดในลักษณะที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
(ง)
การอาศัยการระงับข้อพิพาทโดยสันติ (จ)
การไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐสมาชิกอาเซียน (ฉ)
การเคารพสิทธิของรัฐสมาชิกทุกรัฐในการธำรงประชาชาติของตนโดยปราศจากการแทรกแซง
การบ่อนทำลาย และการบังคับ จากภายนอก (ช)
การปรึกษาหารือที่เพิ่มพูนขึ้นในเรื่องที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อผลประโยชน์ร่วมกันของอาเซียน
(ซ)
การยึดมั่นต่อหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล หลักการประชาธิปไตยและรัฐบาลตาม
รัฐธรรมนูญ (ฌ)
การเคารพเสรีภาพพื้นฐาน การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
และการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม (ญ)
การยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ
รวมถึงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่รัฐสมาชิกอาเซียนยอมรับ (ฎ)
การละเว้นจากการมีส่วนร่วมในนโยบายหรือกิจกรรมใดๆ รวมถึงการใช้ดินแดนของตน
ซึ่งดำเนินการโดยรัฐสมาชิกอาเซียนหรือรัฐที่มิใช่สมาชิกอาเซียนหรือผู้กระทำที่ไม่ใช่รัฐใดๆ
ซึ่งคุกคามอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน
หรือเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของรัฐสมาชิกอาเซียน (ฏ)
การเคารพในวัฒนธรรม ภาษาและศาสนาที่แตกต่างของประชาชนอาเซียน โดยเน้นคุณค่าร่วมกันของประชาชนอาเซียนในจิตวิญญาณของเอกภาพในความหลากหลาย
(ฐ)
ความเป็นศูนย์รวมของอาเซียนในความสัมพันธ์ภายนอกทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
และวัฒนธรรม โดยคงไว้ซึ่งความมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน การมองไปภายนอก
การไม่ปิดกั้นและการไม่เลือกปฏิบัติ และ (ฑ)
การยึดมั่นในกฎการค้าพหุภาคีและระบอบของอาเซียนซึ่งมีกฎเป็นพื้นฐาน
สำหรับการปฏิบัติตามข้อผูกพันทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
และการลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไปสู่การขจัดการ
กีดกันทั้งปวงต่อการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
ในระบบเศรษฐกิจซึ่งขับเคลื่อนโดยตลาด หมวดที่
2 สภาพบุคคลตามกฎหมาย
ข้อ
3: สภาพบุคคลตามกฎหมายของอาเซียน อาเซียน
ในฐานะองค์การระหว่างประเทศในระดับรัฐบาล ได้รับสภาพบุคคลตามกฎหมายโดยกฎบัตรนี้ หมวดที่
3 สมาชิกภาพ
ข้อ
4: รัฐสมาชิก รัฐสมาชิกอาเซียน
ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเลเซีย สหภาพพม่า สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
สาธารณรัฐสิงคโปร์ ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ข้อ
5: สิทธิและพันธกรณี ให้รัฐสมาชิกมีสิทธิและพันธกรณีที่เท่าเทียมกันภายใต้กฎบัตรนี้ ให้รัฐสมาชิกมีมาตรการที่จำเป็นทุกประการอันรวมถึงการออกกฎหมายภายในที่เหมาะสม
เพื่ออนุวัติบทบัญญัติของกฎบัตรนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีทั้งหมดของรัฐสมาชิก ในกรณีการละเมิดกฎบัตรอย่างร้ายแรง
หรือการไม่ปฏิบัติตาม ให้นำข้อ 20 มาใช้บังคับ ข้อ
6: การรับสมาชิกใหม่ กระบวนการในการสมัครและการรับสมาชิกของอาเซียนให้กำหนดโดยคณะมนตรีประสานงานอาเซียน การรับสมาชิกให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
(ก)
ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อันเป็นที่ยอมรับว่าอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ข)
การยอมรับโดยรัฐสมาชิกอาเซียนทั้งปวง (ค)
การตกลงที่จะผูกพันและเคารพกฎบัตรนี้ และ (ง)
ความสามารถและความเต็มใจที่จะปฏิบัติพันธกรณีของสมาชิกภาพ การรับสมาชิกให้ตัดสินโดยฉันทามติโดยที่ประชุมสุดยอดอาเซียน
ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีประสานงานอาเซียน รัฐผู้สมัครจะได้รับเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนเมื่อได้ลงนามภาคยานุวัติสารกฎบัตรนี้ หมวดที่
4 องค์กร
ข้อ
7: ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ให้ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนประกอบด้วยประมุขของรัฐ
หรือ หัวหน้ารัฐบาลของรัฐสมาชิก ให้ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน:
(ก)
เป็นองค์กรสูงสุดในการกำหนดนโยบายของอาเซียน (ข)
พิจารณาหารือ ให้แนวนโยบาย
และตัดสินใจในประเด็นหลักที่เกี่ยวข้องกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของอาเซียน
ในเรื่องสำคัญที่เป็นผลประโยชน์ของรัฐสมาชิก
และในทุกประเด็นที่ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนโดยคณะมนตรีประสานงานอาเซียน
คณะมนตรีประชาคมอาเซียน และองค์กรระดับรัฐมนตรีเฉพาะสาขา (ค)
สั่งการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในแต่ละคณะมนตรีที่เกี่ยวข้องให้จัดการประชุมเฉพาะกิจระหว่างรัฐมนตรี
และหารือประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับอาเซียน
ที่มีลักษณะคาบเกี่ยวระหว่างคณะมนตรีประชาคมอาเซียนต่างๆ ทั้งนี้
ให้คณะมนตรีประสานงานอาเซียนรับรองกฎการดำเนินการประชุมดังกล่าว (ง)
ตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินที่กระทบต่ออาเซียนโดยดำเนินมาตรการที่เหมาะสม (จ)
ตัดสินใจในเรื่องที่มีการนำเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนภายใต้หมวดที่ 7 และ 8 (ฉ)
อนุมัติการจัดตั้งและการยุบองค์กรระดับรัฐมนตรีเฉพาะสาขาและสถาบันอื่นๆ
ของอาเซียน และ (ช)
แต่งตั้งเลขาธิการอาเซียน
ที่มีชั้นและสถานะเทียบเท่ารัฐมนตรีซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่โดยได้รับความไว้วางใจและตามความพอใจของประมุขของรัฐหรือหัวหน้ารัฐบาล
ตามข้อเสนอแนะของที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ให้ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน
(ก)
จัดประชุมสองครั้งต่อปี และให้รัฐสมาชิกซึ่งเป็นประธานอาเซียนเป็นเจ้าภาพ และ (ข)
เรียกประชุม เมื่อมีความจำเป็น ในฐานะการประชุมพิเศษหรือเฉพาะกิจ
โดยมีประธานการประชุมเป็นรัฐสมาชิกซึ่งเป็นประธานอาเซียน
โดยจัดในสถานที่ที่รัฐสมาชิกอาเซียนจะตกลงกัน ข้อ
8: คณะมนตรีประสานงานอาเซียน ให้คณะมนตรีประสานงานอาเซียนประกอบด้วยรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
และประชุมกันอย่างน้อยสองครั้งต่อปี ให้คณะมนตรีประสานงานอาเซียน
(ก)
เตรียมการประชุมของที่ประชุมสุดยอดอาเซียน (ข)
ประสานการอนุวัติความตกลงและข้อตัดสินใจของที่ประชุมสุดยอดอาเซียน (ค)
ประสานงานกับคณะมนตรีประชาคมอาเซียนต่างๆ เพื่อเพิ่มความสอดคล้องกันของนโยบาย
ประสิทธิภาพ และความร่วมมือระหว่างกัน (ง)
ประสานงานรายงานของคณะมนตรีประชาคมอาเซียน ซึ่งเสนอที่ประชุมสุดยอดอาเซียน (จ)
พิจารณารายงานประจำปีของเลขาธิการอาเซียนเกี่ยวกับงานของอาเซียน (ฉ)
พิจารณารายงานของเลขาธิการอาเซียนเกี่ยวกับหน้าที่และการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการอาเซียนและองค์กรอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้อง (ช)
เห็นชอบการแต่งตั้งและการยุติหน้าที่ของรองเลขาธิการอาเซียน
ตามข้อเสนอแนะของเลขาธิการอาเซียน และ (ซ)
ปฏิบัติภารกิจอื่นตามที่กำหนดไว้ในกฎบัตรนี้
หรือหน้าที่อื่นที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ให้คณะมนตรีประสานงานอาเซียนได้รับการสนับสนุนโดยเจ้าหน้าที่อาวุโสที่เกี่ยวข้อง ข้อ
9: คณะมนตรีประชาคมอาเซียนต่างๆ ให้คณะมนตรีประชาคมอาเซียนต่างๆ
ประกอบด้วยคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
คณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ให้คณะมนตรีประชาคมอาเซียนแต่ละคณะมีองค์กรระดับรัฐมนตรีเฉพาะสาขาที่เกี่ยวข้องในขอบข่ายการดำเนินงานของตน ให้รัฐสมาชิกแต่ละรัฐแต่งตั้งผู้แทนของรัฐตนสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมอาเซียนแต่ละคณะ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของแต่ละเสาหลักของเสาหลักทั้งสามของประชาคมอาเซียน
ให้คณะมนตรีประชาคมอาเซียนแต่ละคณะ (ก)
ทำให้แน่ใจว่ามีการอนุวัติข้อตัดสินใจของที่ประชุมสุดยอดอาเซียนที่เกี่ยวข้อง (ข)
ประสานการปฏิบัติงานของสาขาต่างๆ ที่อยู่ในขอบข่ายการดำเนินงานของตน
และในประเด็นซึ่ง คาบเกี่ยวกับคณะมนตรีประชาคมอื่นๆ และ (ค)
เสนอรายงานและข้อเสนอแนะต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในขอบข่าย
การดำเนินงานของตน ให้คณะมนตรีประชาคมอาเซียนแต่ละคณะประชุมกันอย่างน้อยสองครั้งต่อปี
และมีประธานการประชุมเป็นรัฐมนตรีที่เหมาะสมจากรัฐสมาชิกซึ่งเป็นประธานอาเซียน ให้คณะมนตรีประชาคมอาเซียนแต่ละคณะได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่อาวุโสที่เกี่ยวข้อง ข้อ
10: องค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขา ให้องค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขา
(ก)
ดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละองค์กรที่มีอยู่ (ข)
ปฏิบัติตามความตกลงและข้อตัดสินใจของที่ประชุมสุดยอดอาเซียนที่อยู่ในขอบข่ายการดำเนินงานของแต่ละองค์กร
(ค)
เสริมสร้างความร่วมมือในสาขาของแต่ละองค์กรให้เข้มแข็งขึ้น
เพื่อสนับสนุนการรวมตัวของอาเซียนและการสร้างประชาคมอาเซียน และ (ง)
เสนอรายงานและข้อเสนอแนะต่อคณะมนตรีประชาคมอาเซียนของแต่ละองค์กร องค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขาแต่ละองค์กรอาจมีเจ้าหน้าที่อาวุโสและองค์กรย่อยที่เกี่ยวข้องในขอบข่ายการดำเนินงานของตนตามที่ระบุในภาคผนวก
1 เพื่อดำเนินหน้าที่ของตน ภาคผนวกดังกล่าวอาจได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย
โดยเลขาธิการอาเซียนตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการของผู้แทนถาวรประจำอาเซียน
โดยไม่ต้องใช้บทบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขภายใต้กฎบัตรนี้ ข้อ
11: เลขาธิการอาเซียนและสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ให้เลขาธิการอาเซียนได้รับการแต่งตั้งโดยที่ประชุมสุดยอดอาเซียน
โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งห้าปีที่ไม่สามารถต่ออายุได้ และให้ได้รับการเลือกจากคนชาติของรัฐสมาชิกอาเซียน
บนพื้นฐานของการหมุนเวียนตามลำดับตัวอักษร โดยคำนึงถึงความซื่อสัตย์สุจริต
ความสามารถ รวมถึงประสบการณ์ทางวิชาชีพ และความเท่าเทียมกันทางเพศ ให้เลขาธิการอาเซียน
(ก)
ปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบของตำแหน่งระดับสูงนี้
โดยเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎบัตรฉบับนี้และตราสาร พิธีสาร
และแนวปฏิบัติที่มีอยู่ของอาเซียนที่เกี่ยวข้อง (ข)
อำนวยความสะดวกและสอดส่องดูแลความคืบหน้าในการอนุวัติความตกลงและข้อตัดสินใจของอาเซียน
และเสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับงานของอาเซียนต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียน (ค)
เข้าร่วมในการประชุมต่างๆ ของที่ประชุมสุดยอดอาเซียน คณะมนตรีประชาคมอาเซียน
คณะมนตรีประสานงานอาเซียน และองค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขา
และการประชุมอาเซียนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ง)
เสนอข้อคิดเห็นของอาเซียนและเข้าร่วมการประชุมกับภาคีภายนอกตามแนวนโยบายที่ได้รับ
ความเห็นชอบและตามอำนาจหน้าที่ ที่เลขาธิการอาเซียนได้รับมอบหมาย และ (จ)
เสนอแนะการแต่งตั้งและการยุติหน้าที่ของรองเลขาธิการอาเซียนต่อคณะมนตรีประสานงานอาเซียน
เพื่อให้ความเห็นชอบ ให้เลขาธิการอาเซียนเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของอาเซียนด้วย ให้เลขาธิการอาเซียนได้รับการสนับสนุนจากรองเลขาธิการอาเซียนสี่คน
ซึ่งมีชั้นและสถานะของรัฐมนตรีช่วยว่าการ
โดยให้รองเลขาธิการอาเซียนรับผิดชอบต่อเลขาธิการอาเซียนในการปฏิบัติหน้าที่ของตน รองเลขาธิการอาเซียนทั้งสี่คนต้องมีสัญชาติที่แตกต่างจากเลขาธิการอาเซียนและมาจากรัฐสมาชิกที่แตกต่างกันสี่รัฐสมาชิกอาเซียน ให้รองเลขาธิการอาเซียนสี่คน
ประกอบด้วย (ก)
รองเลขาธิการอาเซียนสองคน ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งสามปีที่ไม่สามารถต่ออายุได้
ซึ่งได้รับเลือกจากคนชาติของรัฐสมาชิกอาเซียน
บนพื้นฐานของการหมุนเวียนตามลำดับตัวอักษร โดยคำนึงถึงความซื่อสัตย์สุจริต
คุณสมบัติ ความสามารถ ประสบการณ์ และความเท่าเทียมกันทางเพศ และ (ข)
รองเลขาธิการอาเซียนสองคน ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งสามปี
และอาจต่ออายุได้อีกสามปี ให้ รองเลขาธิการอาเซียนสองคนนี้ได้รับการคัดเลือกโดยเปิดกว้างบนพื้นฐานของความรู้ความสามารถ ให้สำนักเลขาธิการอาเซียนประกอบด้วยเลขาธิการอาเซียนและพนักงานตามที่จำเป็น ให้เลขาธิการอาเซียนและพนักงาน
(ก)
ยึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดของความซื่อสัตย์สุจริต ความมีประสิทธิภาพ และความสามารถ
ในการปฏิบัติหน้าที่ของตน (ข)
ไม่ขอหรือรับคำสั่งจากรัฐบาลหรือภาคีภายนอกอาเซียนใดๆ และ (ค)
ละเว้นจากการดำเนินการใด
ซึ่งอาจมีผลสะท้อนถึงตำแหน่งหน้าที่ของตนในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการอาเซียน
ซึ่งรับผิดชอบต่ออาเซียนเท่านั้น รัฐสมาชิกอาเซียนแต่ละรัฐรับที่จะเคารพในลักษณะความเป็นอาเซียนโดยเฉพาะของความรับผิดชอบของเลขาธิการอาเซียนและพนักงาน
และจะไม่แสวงหาที่จะมีอิทธิพลต่อเลขาธิการอาเซียนและพนักงาน
ในการปฏิบัติตามความรับผิดชอบของบุคคลเหล่านั้น ข้อ12:
คณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียน ให้รัฐสมาชิกอาเซียนแต่ละรัฐแต่งตั้งผู้แทนถาวรประจำอาเซียนหนึ่งคน
ในระดับเอกอัครราชทูตที่มีถิ่นพำนัก ณ กรุงจาการ์ตา ผู้แทนถาวรรวมกันตั้งขึ้นเป็นคณะกรรมการผู้แทนถาวร
ซึ่งจะต้อง (ก)
สนับสนุนการทำงานของคณะมนตรีประชาคมอาเซียนและองค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขา
(ข)
ประสานงานกับสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ
และองค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขาอื่นๆ (ค)
ติดต่อประสานงานกับเลขาธิการอาเซียนและสำนักเลขาธิการอาเซียนในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับงานของตน
(ง)
อำนวยความสะดวกความร่วมมือของอาเซียนกับหุ้นส่วนภายนอก และ (จ)
ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ที่อาจกำหนดโดยคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ข้อ
13: สำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ ให้รัฐสมาชิกแต่ละรัฐจัดตั้งสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ
ซึ่งจะต้อง (ก)
ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกลางแห่งชาติ (ข)
เป็นหน่วยงานระดับชาติ ซึ่งเก็บรักษาข้อสนเทศในเรื่องทั้งปวงเกี่ยวกับอาเซียน (ค)
ประสานงานระดับชาติเกี่ยวกับการอนุวัติข้อตัดสินใจของอาเซียน (ง)
ประสานงานและสนับสนุนการเตรียมการระดับชาติของการประชุมอาเซียน (จ)
ส่งเสริมอัตลักษณ์และความสำนึกเกี่ยวกับอาเซียนในระดับชาติ และ (ฉ)
มีส่วนร่วมสร้างประชาคมอาเซียน ข้อ
14: องค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน โดยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรอาเซียนเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
ให้อาเซียนจัดตั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียนขึ้น องค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียนจะต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ซึ่งจะกำหนดโดยที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ข้อ
15: มูลนิธิอาเซียน ให้มูลนิธิอาเซียนสนับสนุนเลขาธิการอาเซียนและดำเนินการร่วมกับองค์กรของอาเซียนที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน
โดยการส่งเสริมความสำนึกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของอาเซียน
การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชน
และการดำเนินการร่วมกันที่ใกล้ชิดระหว่างภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม นักวิชาการ
และผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ในอาเซียน ให้มูลนิธิอาเซียนรับผิดชอบต่อเลขาธิการอาเซียน
ผู้ซึ่งจะต้องเสนอรายงานต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนผ่านคณะมนตรีประสานงานอาเซียน หมวดที่
5 องคภาวะที่มีความสัมพันธ์กับอาเซียน
ข้อ
16: องคภาวะที่มีความสัมพันธ์กับอาเซียน อาเซียนอาจมีความสัมพันธ์กับองคภาวะซึ่งสนับสนุนกฎบัตรอาเซียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุประสงค์และหลักการของอาเซียน
องคภาวะที่มีความสัมพันธ์เหล่านี้ระบุอยู่ในภาคผนวก 2 ให้คณะกรรมการผู้แทนถาวรบัญญัติกฎว่าด้วยขั้นตอนดำเนินงานและหลักเกณฑ์สำหรับการมีความสัมพันธ์ตามข้อเสนอแนะของเลขาธิการอาเซียน ภาคผนวก
2
อาจได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยโดยเลขาธิการอาเซียนตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการผู้แทนถาวร
โดยไม่ต้องใช้บทบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขภายใต้กฎบัตรนี้ หมวด
6 ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์
ข้อ
17: ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์ของอาเซียน ให้อาเซียนได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันในดินแดนของรัฐสมาชิกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุความมุ่งประสงค์ของอาเซียน ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์จะถูกกำหนดไว้ในความตกลงต่างหากระหว่างอาเซียนและรัฐสมาชิกเจ้าภาพ ข้อ
18:
ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์ของเลขาธิการอาเซียนและพนักงานของสำนักเลขาธิการอาเซียน ให้เลขาธิการอาเซียนและพนักงานของสำนักเลขาธิการอาเซียนที่เข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ
อย่างเป็นทางการของอาเซียนหรือเป็นตัวแทนของอาเซียนในรัฐสมาชิก
ได้รับความคุ้มกันและเอกสิทธิ์เท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างอิสระของตน ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์ภายใต้ข้อนี้จะถูกกำหนดไว้ในความตกลงต่างหากของอาเซียน ข้อ
19 :
ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์ของผู้แทนถาวรและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของอาเซียน ให้ผู้แทนถาวรของรัฐสมาชิกประจำอาเซียนและเจ้าหน้าที่ของรัฐสมาชิกที่เข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ
อย่างเป็นทางการของอาเซียนหรือเป็นตัวแทนของอาเซียนในรัฐสมาชิก
ได้รับความคุ้มกันและเอกสิทธิ์เท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ของตน ให้ความคุ้มกันและเอกสิทธิ์ของผู้แทนถาวรและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของอาเซียนอยู่ภายใต้บังคับของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูต
ค.ศ. 1961 หรือเป็นไปตามกฎหมายภายในของรัฐสมาชิกอาเซียนที่เกี่ยวข้อง หมวด
7 การตัดสินใจ
ข้อ
20: การปรึกษาหารือและฉันทามติ โดยหลักการพื้นฐาน
ให้การตัดสินใจของอาเซียนอยู่บนพื้นฐานของการปรึกษาหารือและฉันทามติ หากไม่สามารถหาฉันทามติได้
ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนอาจตัดสินว่า การตัดสินใจเฉพาะเรื่องหนึ่งเรื่องใด
จะสามารถทำได้อย่างไร ไม่มีความใดในวรรค
1 และ 2
ของข้อนี้กระทบถึงวิธีการตัดสินใจที่ระบุอยู่ในตราสารทางกฎหมายของอาเซียนที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีการละเมิดกฎบัตรอย่างร้ายแรง
หรือการไม่ปฏิบัติตาม
ให้เสนอเรื่องดังกล่าวไปยังที่ประชุมสุดยอดอาเซียนเพื่อตัดสิน ข้อ
21: การอนุวัติและขั้นตอนการดำเนินงาน ให้คณะมนตรีประชาคมอาเซียนแต่ละคณะบัญญัติกฎว่าด้วยขั้นตอนการดำเนินงานของตนเอง ในการอนุวัติข้อผูกพันด้านเศรษฐกิจ
อาจนำสูตรการเข้าร่วมแบบยืดหยุ่นรวมถึงสูตรอาเซียนที่ไม่รวมสมาชิกบางรัฐมาใช้
หากมีฉันทามติ หมวด
8 การระงับข้อพิพาท
ข้อ
22: หลักการทั่วไป รัฐสมาชิกต้องพยายามที่จะระงับข้อพิพาททั้งปวงอย่างสันติให้ทันท่วงที
โดยผ่านการสนทนา การปรึกษาหารือ และการเจรจา ให้อาเซียนจัดตั้งและธำรงไว้ซึ่งกลไกการระงับข้อพิพาทในทุกสาขาความร่วมมือของอาเซียน ข้อ
23: คนกลางที่มีตำแหน่งหน้าที่น่าเชื่อถือ การประนีประนอม และการไกล่เกลี่ย รัฐสมาชิกที่เป็นคู่กรณีในข้อพิพาทอาจจะตกลงกันเมื่อใดก็ได้ที่จะใช้คนกลางที่มีตำแหน่งหน้าที่น่าเชื่อถือ
การประนีประนอม หรือการไกล่เกลี่ย เพื่อระงับข้อพิพาทภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน คู่กรณีในข้อพิพาทอาจร้องขอให้ประธานอาเซียน
หรือเลขาธิการอาเซียน ทำหน้าที่โดยตำแหน่ง
ในการเป็นคนกลางที่มีตำแหน่งหน้าที่น่าเชื่อถือ การประนีประนอม
หรือการไกล่เกลี่ย ข้อ
24: กลไกระงับข้อพิพาทตามตราสารเฉพาะ ให้ระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับตราสารเฉพาะของอาเซียนโดยกลไกและขั้นตอนการดำเนินการที่กำหนดไว้ในตราสารนั้นๆ ให้ระงับข้อพิพาทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตีความหรือการใช้ตราสารอาเซียนใดๆ
โดยสันติตามสนธิสัญญาทางไมตรีและความร่วมมือแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตามกฎว่าด้วยขั้นตอนการดำเนินงานของสนธิสัญญาดังกล่าว ในกรณีที่มิกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นเป็นการเฉพาะ
ให้ระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการตีความหรือการใช้ความตกลงทางเศรษฐกิจของอาเซียนตามพิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียน ข้อ
25: การจัดตั้งกลไกระงับข้อพิพาท ในกรณีที่มิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นเป็นการเฉพาะ
ให้มีการจัดตั้งกลไกระงับข้อพิพาทที่เหมาะสม รวมถึงอนุญาโตตุลาการ
สำหรับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการตีความหรือการใช้กฎบัตรนี้
และตราสารอาเซียนอื่นๆ ข้อ
26: ข้อพิพาทที่มิอาจระงับได้ ในกรณีที่ยังคงระงับข้อพิพาทมิได้
ภายหลังการใช้บทบัญญัติก่อนหน้านี้ในหมวดนี้แล้ว
ให้เสนอข้อพิพาทนั้นไปยังที่ประชุมสุดยอดอาเซียน เพื่อตัดสิน ข้อ
27: การปฏิบัติตาม เลขาธิการอาเซียนโดยการช่วยเหลือจากสำนักเลขาธิการอาเซียน
หรือ องค์กรอาเซียนอื่นๆ ที่ได้รับแต่งตั้ง
จะสอดส่องดูแลการปฏิบัติตามผลการวินิจฉัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อตัดสินใจ
ซึ่งเป็นผลจากกลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียน
และส่งรายงานไปยังที่ประชุมสุดยอดอาเซียน รัฐสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการไม่ปฏิบัติตามผลการวินิจฉัย
ข้อเสนอแนะ หรือข้อตัดสินใจ ซึ่งเป็นผลจากกลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียน
อาจส่งเรื่องไปยังที่ประชุมสุดยอดอาเซียนเพื่อตัดสิน ข้อ
28: บทบัญญัติของกฎบัตรสหประชาชาติ
และกระบวนการระหว่างประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หากมิได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในกฎบัตรนี้
รัฐสมาชิกยังคงไว้ซึ่งสิทธิที่จะใช้วิธีการระงับข้อพิพาทอย่างสันติที่ระบุไว้ในข้อ
33(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ หรือตราสารทางกฎหมายระหว่างประเทศอื่นๆ
ที่รัฐสมาชิกคู่พิพาทเป็นภาคี หมวด
9 งบประมาณและการเงิน
ข้อ
29: หลักการทั่วไป อาเซียนจะต้องกำหนดกฎและขั้นตอนการดำเนินงานทางการเงินให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล อาเซียนจะต้องปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการทางการเงินที่ดีและระเบียบวินัยด้านงบประมาณ บัญชีการเงินจะต้องได้รับการตรวจสอบภายในและภายนอก ข้อ
30: งบประมาณสำหรับการดำเนินงานและการเงินของสำนักเลขาธิการอาเซียน สำนักเลขาธิการอาเซียนจะต้องได้รับทรัพยากรทางการเงินที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างมีประสิทธิภาพ งบประมาณสำหรับการดำเนินงานของสำนักเลขาธิการอาเซียนจะต้องมาจากรัฐสมาชิกอาเซียนโดยเงินบริจาคประจำปีรัฐละเท่าๆ
กัน ซึ่งจะต้องส่งให้ทันกำหนด เลขาธิการจะต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการดำเนินงานประจำปีของสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะมนตรีประสานงานอาเซียน
โดยคำแนะนำของคณะกรรมการผู้แทนถาวร สำนักเลขาธิการอาเซียนจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎและขั้นตอนการดำเนินงานทางการเงินที่กำหนดโดยคณะมนตรีประสานงานอาเซียน
โดยคำแนะนำของคณะกรรมการผู้แทนถาวร หมวด
10 การบริหารและขั้นตอนการดำเนินงาน
ข้อ
31: ประธานอาเซียน ตำแหน่งประธานอาเซียนให้หมุนเวียนทุกปี
บนพื้นฐานของลำดับอักษรของชื่อภาษาอังกฤษของรัฐสมาชิก ในหนึ่งปีปฏิทิน
อาเซียนจะมีตำแหน่งประธานหนึ่งเดียว
โดยรัฐสมาชิกที่รับตำแหน่งประธานนั้นจะทำหน้าที่เป็นประธานของ (ก)
การประชุมสุดยอดอาเซียน และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง (ข)
คณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ค)
คณะมนตรีประชาคมอาเซียนทั้งสามคณะ (ง)
องค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้อง ตามที่
เหมาะสม และ (จ)
คณะกรรมการผู้แทนถาวร ข้อ
32: บทบาทของประธานอาเซียน รัฐสมาชิกที่ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนจะต้อง
(ก)
ส่งเสริมและเพิ่มพูนผลประโยชน์ และความเป็นอยู่ที่ดีของอาเซียน รวมถึง
ความพยายามในการสร้างประชาคมอาเซียนอย่างแข็งขัน โดยการริเริ่มทางนโยบาย
การประสานงาน ฉันทามติ และความร่วมมือ (ข)
ทำให้แน่ใจว่ามีความเป็นศูนย์รวมของอาเซียน (ค)
ทำให้แน่ใจว่ามีการตอบสนองต่อปัญหาเร่งด่วนหรือสถานการณ์วิกฤติที่มีผลกระทบต่ออาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
รวมถึงจัดให้มีคนกลางที่มีตำแหน่งน่าเชื่อถือและการจัดการอื่นเช่นว่า
เพื่อแก้ไขข้อกังวลเหล่านี้โดยทันที (ง)
เป็นตัวแทนของอาเซียนในการเสริมสร้างและส่งเสริมความสัมพันธ์กับหุ้นส่วน
ภายนอกภูมิภาคให้ใกล้ชิดขึ้น และ (จ)
ปฏิบัติภารกิจและหน้าที่อื่นตามที่อาจได้รับมอบหมาย ข้อ
33: พิธีการและแนวปฏิบัติทางการทูต อาเซียนและรัฐสมาชิกจะต้องยึดมั่นในพิธีการและแนวปฏิบัติทางการทูตที่มีอยู่ในการดำเนินกิจกรรมทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน
การเปลี่ยนแปลงใดๆ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีประสานงานอาเซียน
โดยคำแนะนำของคณะกรรมการผู้แทนถาวร ข้อ
34: ภาษาทำงานของอาเซียน ภาษาทำงานของอาเซียน
คือ ภาษาอังกฤษ หมวด
11 อัตลักษณ์และสัญลักษณ์
ข้อ
35: อัตลักษณ์ของอาเซียน อาเซียนจะต้องส่งเสริมอัตลักษณ์ร่วมกันของตนและความรู้สึกเป็นเจ้าของในหมู่ประชาชนของตน
เพื่อให้บรรลุชะตา เป้าหมาย และคุณค่าร่วมกันของอาเซียน ข้อ
36: คำขวัญของอาเซียน คำขวัญของอาเซียน
คือ วิสัยทัศน์เดียว
อัตลักษณ์เดียว ประชาคมเดียว ข้อ
37: ธงอาเซียน ธงอาเซียนจะเป็นตามที่แสดงไว้ในภาคผนวก
3 ข้อ
38: ดวงตราอาเซียน ดวงตราอาเซียนจะเป็นตามที่แสดงไว้ในภาคผนวก
4 ข้อ
39: วันอาเซียน ให้วันที่
8 สิงหาคม เป็นวันอาเซียน ข้อ
40: เพลงประจำอาเซียน ให้อาเซียนมีเพลงประจำอาเซียน หมวด
12 ความสัมพันธ์ภายนอก
ข้อ
41: การดำเนินความสัมพันธ์ภายนอก อาเซียนจะต้องพัฒนาความสัมพันธ์ฉันท์มิตร
และการเจรจา ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน กับประเทศ
องค์การและสถาบันระดับอนุภูมิภาค ภูมิภาคและระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ภายนอกของอาเซียนจะยึดมั่นในวัตถุประสงค์และหลักการที่วางไว้ในกฎบัตรนี้ อาเซียนจะเป็นพลังขับเคลื่อนขั้นแรกในการจัดการภูมิภาคที่อาเซียนได้ริเริ่มขึ้น
และธำรงไว้ซึ่งความเป็นศูนย์รวมของอาเซียนในความร่วมมือระดับภูมิภาคและการสร้างประชาคม ในการดำเนินความสัมพันธ์ภายนอกของอาเซียน
รัฐสมาชิกจะประสานงานและพยายามพัฒนาท่าทีร่วมและดำเนินการร่วมกัน
บนพื้นฐานของเอกภาพและความสามัคคี แนวนโยบายยุทธศาสตร์ของความสัมพันธ์ภายนอกของอาเซียนให้กำหนดโดยที่ประชุมสุดยอดอาเซียนโดยการเสนอแนะของที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะทำให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์ภายนอกของอาเซียนดำเนินไปอย่างเสมอต้นเสมอปลายและเป็นไปในทางที่สอดคล้องกัน อาเซียนสามารถทำความตกลงกับประเทศ
หรือองค์การและสถาบันระดับอนุภูมิภาค ภูมิภาคและระหว่างประเทศ
กระบวนการทำความตกลงดังกล่าวให้กำหนดโดยคณะมนตรีประสานงานอาเซียนโดยการหารือกับคณะมนตรีประชาคมอาเซียน ข้อ
42: ผู้ประสานงานกับคู่เจรจา ในฐานะผู้ประสานงานประเทศ
ให้รัฐสมาชิกผลัดกันรับผิดชอบภาพรวมการประสานงานและส่งเสริมผลประโยชน์ของอาเซียนในความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง
องค์การและสถาบันระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ในส่วนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนภายนอก
นอกจากหน้าที่อื่นแล้ว ให้ผู้ประสานงานประเทศ (ก)
เป็นผู้แทนอาเซียน และเพิ่มพูนความสัมพันธ์
บนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกันและ ความเสมอภาค
โดยสอดคล้องกับหลักการของอาเซียน (ข)
เป็นประธานร่วมในการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างอาเซียนและหุ้นส่วนภายนอก และ (ค)
รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการอาเซียนในประเทศที่สามและองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ข้อ
43: คณะกรรมการอาเซียนในประเทศที่สามและองค์การระหว่างประเทศ คณะกรรมการอาเซียนในประเทศที่สามอาจตั้งขึ้นในประเทศที่มิใช่สมาชิกอาเซียน
ประกอบด้วยหัวหน้าคณะผู้แทนทางทูตของรัฐสมาชิกอาเซียน
คณะกรรมการในลักษณะเดียวกันอาจจัดตั้งขึ้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับองค์การระหว่างประเทศต่างๆ
คณะกรรมการเช่นว่าจะต้องส่งเสริมผลประโยชน์และอัตลักษณ์ของอาเซียนในประเทศและองค์การระหว่างประเทศเจ้าภาพ ให้ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกำหนดกฎว่าด้วยขั้นตอนการดำเนินงานของคณะกรรมการเช่นว่า ข้อ
44: สถานภาพของภาคีภายนอก ในการดำเนินความสัมพันธ์ภายนอกของอาเซียน
ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอาจมอบสถานภาพอย่างเป็นทางการให้แก่ภาคีภายนอกในฐานะประเทศคู่เจรจา
ประเทศคู่เจรจาเฉพาะด้าน หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ผู้สังเกตการณ์พิเศษ
ผู้ได้รับเชิญ หรือสถานภาพอื่นที่อาจจัดตั้งขึ้นต่อไป อาเซียนอาจเชิญภาคีภายนอกให้เข้าร่วมการประชุมหรือกิจกรรมความร่วมมือโดยมิต้องกำหนดให้สถานภาพอย่างเป็นทางการใดๆ
ตามกฎว่าด้วยขั้นตอนการดำเนินงาน ข้อ
45: ความสัมพันธ์กับระบบสหประชาชาติ และองค์การและสถาบันระหว่างประเทศอื่น อาเซียนอาจขอสถานภาพที่เหมาะสมกับระบบสหประชาชาติ
รวมทั้งกับองค์การและสถาบันระดับอนุภูมิภาค ภูมิภาค และระหว่างประเทศอื่น คณะมนตรีประสานงานอาเซียนจะเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของอาเซียนในองค์การและสถาบันระดับอนุภูมิภาค
ภูมิภาค และระหว่างประเทศอื่น ข้อ
46: การส่งผู้แทนอย่างเป็นทางการของรัฐที่มิใช่รัฐสมาชิกอาเซียนประจำอาเซียน รัฐที่มิใช่สมาชิกอาเซียนและองค์การระหว่างประเทศระดับรัฐบาลที่เกี่ยวข้องอาจแต่งตั้งและส่งเอกอัครราชทูตเป็นผู้แทนอย่างเป็นทางการประจำอาเซียน
ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับการส่งผู้แทนอย่างเป็นทางการเช่นว่า หมวด
13 บทบัญญัติทั่วไปและบทบัญญัติสุดท้าย
ข้อ
47: การลงนาม การให้สัตยาบัน การเก็บรักษา และการมีผลใช้บังคับ กฎบัตรนี้จะต้องได้รับการลงนามโดยรัฐสมาชิกอาเซียนทั้งหมด กฎบัตรนี้จะอยู่ใต้บังคับของการให้สัตยาบันจากรัฐสมาชิกอาเซียนทุกรัฐตามกระบวนการภายในของ
แต่ละรัฐ สัตยาบันสารจะต้องเก็บรักษาไว้กับเลขาธิการอาเซียน
ซึ่งจะแจ้งให้รัฐสมาชิกทุกรัฐทราบถึงการส่งมอบสัตยาบันสารแต่ละฉบับโดยพลัน กฎบัตรนี้จะมีผลใช้บังคับในวันที่สามสิบหลังจากวันที่มีการส่งมอบสัตยาบันสารฉบับที่สิบให้แก่เลขาธิการอาเซียน ข้อ
48: การแก้ไข รัฐสมาชิกใดๆ
อาจเสนอข้อแก้ไขกฎบัตร ข้อเสนอแก้ไขกฎบัตรจะต้องยื่นโดยคณะมนตรีประสานงานอาเซียนโดยฉันทามติต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนเพื่อตัดสิน ข้อแก้ไขกฎบัตรที่ได้ตกลงกันโดยฉันทามติโดยที่ประชุมสุดยอดอาเซียนจะต้องได้รับการสัตยาบันจากรัฐสมาชิกทุกรัฐ
ตามข้อ 47 ข้อแก้ไขใดๆ
จะมีผลใช้บังคับในวันที่สามสิบหลังจากวันที่มีการส่งมอบสัตยาบันสารฉบับสุดท้ายต่อเลขาธิการอาเซียน ข้อ
49: อำนาจและหน้าที่และกฎว่าด้วยขั้นตอนการดำเนินงาน นอกจากจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในกฎบัตรนี้
คณะมนตรีประสานงานอาเซียนจะเป็นผู้กำหนดอำนาจและหน้าที่และกฎว่าด้วยขั้นตอนการดำเนินงานและต้องทำให้แน่ใจว่าอำนาจหน้าที่และกฎว่าด้วยขั้นตอนการดำเนินงานสอดคล้องกัน ข้อ
50 การทบทวน กฎบัตรนี้อาจได้รับการทบทวนเมื่อครบห้าปีหลังจากที่มีผลใช้บังคับหรือตามที่ได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นโดยที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ข้อ
51 การตีความกฎบัตร เมื่อรัฐสมาชิกใดๆ
ร้องขอ
ให้สำนักงานเลขาธิการอาเซียนตีความกฎบัตรตามกฎว่าด้วยขั้นตอนการดำเนินงานที่กำหนดโดยคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ให้ระงับข้อพิพาทใดๆ
ที่เกิดจากการตีความกฎบัตรตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องในหมวด 8 หัวและชื่อที่ใช้ในแต่ละหมวดและในแต่ละข้อของกฎบัตรนี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น ข้อ
52 ความต่อเนื่องทางกฎหมาย สนธิสัญญา
อนุสัญญา ความตกลง ข้อตกลง ปฏิญญา พิธีสาร และตราสารอาเซียนอื่นๆ ทั้งหมด
ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วก่อนการมีผลใช้บังคับของกฎบัตรนี้ ให้มีผลใช้ได้ต่อไป ในกรณีที่เกิดความไม่สอดคล้องกันระหว่างสิทธิและพันธกรณีของรัฐสมาชิกอาเซียนภายใต้ตราสารดังกล่าวและกฎบัตรนี้
ให้ยึดถือกฎบัตรนี้เป็นสำคัญ ข้อ
53 ต้นฉบับ ให้ส่งมอบต้นฉบับภาษาอังกฤษของกฎบัตรนี้ที่ลงนามแล้วแก่เลขาธิการอาเซียน
ซึ่งจะจัดทำสำเนาที่ได้รับ การรับรองให้แก่รัฐสมาชิกแต่ละรัฐ ข้อ
54 การจดทะเบียนกฎบัตรอาเซียน ให้เลขาธิการอาเซียนจดทะเบียนกฎบัตรอาเซียนกับสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ
ตามข้อ 102 วรรค 1 ของ กฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ
55 สินทรัพย์ของอาเซียน ให้สินทรัพย์และกองทุนขององค์การอยู่ในนามของอาเซียน ทำ
ณ สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2007
|
|
|
แหล่งอ้างอิง
1. http://www.baanjomyut.com/library_2/asean_community/03.html
2. http://www.mfa.go.th/asean/th/home (กรมอาเซียนกระทรวงการต่างประเทศ)
3. http://www.pramanda.ac.th/asean/index/gen-asean.html
<-- กลับสู่หน้าหลักของศูนย์อาเซียนศึกษา โรงเรียนตากพิทยาคม (ASEAN
Studies Center of Takphitthayakhom School )